คิง เพาเวอร์ เปิดตัว “เจ้าตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทยของสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาร่วมทีมโอเอช ลูเวิน ทีมระดัับดิวิชั่น 2 ในลีกเบลเยี่ยมสุดยิ่งใหญ่ โดยเซ็นสัญญาซื้อขาดยาวถึง 5 ี และถืออเป็นนักเตะที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรแห่งนี้
โดยสโมสรโอเอช ลูเวิน ถูก กลุ่มคิง เพาเวอร์ เข้าซื้อกิจการสโมสรเอาด์-เฮเฟอร์เลลูเวิน(ชื่อเดิม) และถือหุ้นสโมสร จำนวน 92% ภายใต้การนำของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา (เจ้าของและประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้) ในช่วงกลางปี 2017 โดยก่อนหน้านี้เคยส่งแข้งไทย 4 รายไปค้าแข้งในทีมเยาวชนของ โอเอช ลูเวิน มาแล้ว ซึ่งการซื้อกิจการสโมสรดังกล่าวเนื่องจากมุ่งมั่นเดินหน้าสานฝันให้คนไทยได้มีโอกาสก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพและผลักดันให้มีโอกาสเข้าไปเล่น ฟุตบอลในลีกยุโรปในอนาคต และสามารถติดตามการแข่งขันของทีมนี้ได้ทางช่องทรูสปอร์ต เฮชดี2 ช่อง 667
ด้าน อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และเจ้าของสโมสร โอเอช ลูเวิน เผยถึงการเซ็นสัญญาครั้งประวัติศาสตร์ว่า “เราได้ติดตามดูฟอร์มของ กวินทร์ มาเป็นเวลานาน และมีความเชื่อมั่นว่าผู้รักษาประตูรายนี้มีความสามารถและมีคุณสมบัติพร้อมที่จะเล่นให้กับทีมได้อย่างแน่นอน โดยได้ติดต่อไปยังสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ถึงความเป็นไปได้ในการนำเขามาร่วมทีมในเลคสอง ก่อนที่ตลาดซื้อขายจะสิ้นสุดลงในปลายเดือนมกราคมนี้ ซึ่งก็ต้องขอบคุณทางสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่รับข้อเสนอที่สำคัญต่อตัว กวินทร์ และวงการฟุตบอลไทยในครั้งนี้”
ทั้งนี้สำหรับการเซ็นสัญญากับ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ถือเป็นหนึ่งในโครงการ คิง เพาเวอร์ ไทยเพาเวอร์ พลังคนไทยที่ส่งเสริมและพัฒนาพลังของคนไทยในทุกมิติ ที่มุ่งเน้นส่งเสริมเยาวชนไทยด้านกีฬาฟุตบอล สร้างโร้ดแม็ปพัฒนาการด้านฟุตบอลให้กับเยาวชนไทยทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและส่งเสริมเยาวชนไทยโดยเฉพาะด้านกีฬาฟุตบอล ให้มีโอกาสพัฒนาทักษะการเล่นกับนักฟุตบอลระดับโลก และพัฒนาสานฝันให้นักฟุตบอลไทยได้ก้าวไปเป็นนักฟุตบอลอาชีพระดับโลก และนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้ คิง เพาเวอร์ เข้าไปซื้อสโมสรโอเอช ลูเวิน ทีมในพร็อกซิมุส ลีก การแข่งขันระดับที่สองในเบลเยียม เพราะเป็นประเทศเดียวที่เปิดโอกาสให้นักกีฬาต่างชาติเข้าไปเล่นในยุโรปได้ และจะช่วยยกระดับมาตรฐานความรู้และประสบการณ์ดีๆ ให้กับเยาวชนไทยต่อไป
