“นฤบดินทร์” ชม “ราเยวัช” เป็นแบบอย่างที่ดี หวังมีชื่อติด23คนสุดท้าย

“ต้น” นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม แบ๊กขวาทีมชาติไทยจากทีม “ปราสายสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกโรงชื่นชมการทำงานของ “โค้ชมิโล” มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชาวเซอร์เบีย หลังได้ร่วมฝึกซ้อมจากการเก็บตัวทีมชาติ ที่เกียรติธานี คันทรี คลับ

ทัพ “ช้างศึก” ปักหลักเก็บตัวที่ เกียรติธานี คันทรี คลับ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนบุกไปเยือน ทีมชาติอุซเบกิสถาน ในเกมอุ่นเครื่องภายใต้ปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ต่อด้วยเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่ 8

นฤบดินทร์ กล่าวว่า “สิ่งที่แตกต่างจากแต่ก่อนคือเรื่องวินัยครับ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสมากเกินไป”

“ก่อนซ้อมทุกครั้งเขาก็บอกเราว่าวันนี้จะซ้อมอะไร ค่อนข้างที่จะเป็นระบบ เป็นโค้ชที่ไม่กดดันนักเตะ อยากให้ทุกคนสนุกในการซ้อม”

นฤบดินทร์ กล่าวว่าต่อ “บรรยากาศในทีมก็ดีครับ การมีผู้เล่นใหม่หลายคนเข้ามาก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน มันทำให้การแข่งขันสูงขึ้น เหมือนทุกคนเริ่มจากศูนย์ใหม่ โค้ชเขาอาจเห็นเราก็จริงแต่นั่นเป็นในนามสโมสร ซึ่งยังไม่เคยสัมผัสกับเราจริงๆ มันก็ทำให้เรามีแรงกระตุ้นมากขึ้น เป็นข้อดีมากๆอีกข้อที่ทำให้ทุกคนอยากเค้นศักยภาพออกมาให้โค้ชเห็น”

“ส่วนตัวก็ดีใจครับที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แต่ก็ยังมีชื่อติดเข้ามา หลังๆผมก็ได้ลงเล่นตลอดหลังจากเสร็จอบรม ทุกครั้งไม่ว่าจะซ้อมหรือแข่งผมเองก็ตั้งใจอยู่แล้ว ก็ดีใจครับที่ได้โอกาสจากโค้ชคนใหม่ครับ”

“เรื่องการสื่อสารผมว่าไม่ส่งผลครับ หลายๆสโมสรในไทยก็ใช้โค้ชต่างชาติ อย่าง บุรีรัมย์ หรือ บางกอกกล๊าส ซึ่ง ราเยวัช เองก็ไม่ใช่ว่าสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้เลย บางประโยค บางคำสั่งเขาก็ใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาเชิงฟุตบอล ส่วนใหญ่เราก็คุ้นเคยกันอยู่แล้ว อีกอย่างก่อนลงไปเล่นก็มีคนอธิบายชัดเจน ผมคิดว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาอะไรครับ”

นฤบดินทร์ ยังกล่าวถึง ราเยวัช ต่อว่า “ราเยวัช เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเรามากๆ อย่างเช่นเวลาฝึกซ้อมเขาจะลงมาซ้อมกับเราทุกครั้ง ทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่เขาเลย แต่เขาก็ยังมาวิ่ง มาซ้อมร่วมกับเรา ซึ่งมันเป็นแบบอย่างที่ดีให้เราทำตาม ก็ลองคิดดูว่าขนาดเขาอายุ 63 ปีมากกว่าเราตั้งเยอะ เขาทำได้แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้”

“สุดท้ายแน่นอนว่าผมก็คาดหวังว่าจะติดเป็น 23 คนสุดท้าย ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดทุกๆครั้งที่ซ้อมครับ” นฤบดินทร์ปิดท้าย

สำหรับ ทีมชาติไทย จะปักหลักฝึกซ้อมที่ เกียรติธานี คันทรี คลับ จากนั้นจะตัดผู้เล่นจากทั้งหมด 35 รายเหลือ 23 ราย วันที่ 3 มิถุนายน ก่อนเดินทางไปอุ่นเครื่องพบกับ ทีมชาติอุซเบกิสถาน ภายใต้ปฏิทินฟีฟ่าเดย์ วันที่ 6 มิถุนายน ต่อด้วยเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่ 8 วันที่ 13 มิถุนายน ต่อไป