น่ากังขา
น่ากังขา พัทยายื่นประท้วงผู้ตัดสินเกมมส์ดารบี้แมตซ์เมืองชลฯ
ความเคลื่อนไหวของทีม “โลมาน้ำเงิน” หลังพลาดท่าพ่ายในศึกดาร์บี้แมตซ์นัดบุกเยือนชลบุรี เอฟซี จากจุดโทษของ เรนัน มาเกวช ในนาทีที่ 78 ล่าสุดทางทีมพัทยาฯ
ได้ทำหนังสือยื่นประท้วงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินใน 2 จังหวะสำคัญของเกมส์ โดยเหตุการณ์แรกเกิดช่วงท้ายครึ่งแรก จังหวะที่ ‘จ่านุ’ อนุวัฒน์ อินยิน ตัดบอลได้และเตรียมกระชากหลุดเดียวดวลตัวต่อตัวกลับผู้รักษาประตูเจ้าบ้าน แต่ถูกกองหลังกีดขวางการเล่น (Professional Foul) โดยผู้ตัดสินคาดโทษแค่ใบเหลืองเท่านั้น ซึ่งถือเป็นผู้เล่นตัวสุดท้ายในเกมส์รับ
และจังหวะที่ 2 ช่วงต้นครึ่งแรกในจังหวะที่พิชา อุทรา ได้บอลบริเวณกรอบเขตโทษ ก่อนจะกระชากบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายและโดนปราการหลังเจ้าบ้านคนเดิมเหนี่ยวล้มก่อนเข้าเขตโทษแต่ผู้ตัดสินกลับไม่ได้ให้แม้กระทั่งใบเหลือง
โดยเรื่องนี้ผู้จัดการหนุ่ม บิ๊กกานต์ชี้มี 2 จังหวะน่ากังขา รู้อยู่แล้วประท้วงไปก็เปลี่ยนผลการแข่งขันไม่ได้ แต่หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่องผู้ตัดสินและพัฒนาวงการให้ดีขึ้น
“เรื่องผลการแข่งขันและรูปเกมส์ในสนามผมไม่ขอพูดถึง เพราะนักเตะทั้ง 2 ทีมสู้กันในเกมส์เต็มที่แล้วแต่ก็เหมือนทุกครั้งที่พัทยาพยายามเรียกร้องก็คือการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน จาก 2 จังหวะสำคัญในเกมส์
ที่สามารถเปลี่ยนโฉมรูปแบบเกมส์หากคู่ต่อสู้ที่ทำฟาว์วโดนคาดโทษตามที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะในขณะนั้นเกมส์ยังเสมอกัน 0-0 มีผลต่อการแข่งขันแน่นอน แต่เรารู้อยู่แล้วว่าการประท้วง
คงไม่สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ เหนือสิ่งอื่นใดผมต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาในวงการฟุตบอลอย่างจริงจัง อย่างในกรณีนัดเจอราชบุรี
ที่ผู้ตัดสินไม่แม่นกฏเกี่ยวกับการครอบครองบอลของผู้รักษาประตู ผลจากที่เราประท้วงคือการแบนผู้ตัดสิน นั่นเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายทางเท่านั้น พอทีมเราประท้วงและอ้างกฏที่ถูกต้องขึ้นเราเชื่อว่าเคสแบบนัดราชบุรีคงไม่มีทางเกิดขึ้นอีก แน่นอน’ บิ๊กกานต์กล่าวทิ้งท้าย
PUTD : Official Club Newsด่วน!!! พัทยายื่นประท้วงผู้ตัดสินเกมมส์ดารบี้แมตซ์เมืองชลฯ บิ๊กกานต์ชี้มี 2 จังหวะน่ากังขา รู้อยู่แล้วประท้วงไปก็เปลี่ยนผลการแข่งขันไม่ได้ แต่หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่องผู้ตัดสินและพัฒนาวงการให้ดีขึ้น ความเคลื่อนไหวของทีม "โลมาน้ำเงิน" หลังพลาดท่าพ่ายในศึกดาร์บี้แมตซ์นัดบุกเยือนชลบุรี เอฟซี จากจุดโทษของ เรนัน มาเกวช ในนาทีที่ 78 ล่าสุดทางทีมพัทยาฯ ได้ทำหนังสือยื่นประท้วงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินใน 2 จังหวะสำคัญของเกมส์ โดยเหตุการณ์แรกเกิดช่วงท้ายครึ่งแรก จังหวะที่ 'จ่านุ' อนุวัฒน์ อินยิน ตัดบอลได้และเตรียมกระชากหลุดเดียวดวลตัวต่อตัวกลับผู้รักษาประตูเจ้าบ้าน แต่ถูกกองหลังกีดขวางการเล่น (Professional Foul) โดยผู้ตัดสินคาดโทษแค่ใบเหลืองเท่านั้น ซึ่งถือเป็นผู้เล่นตัวสุดท้ายในเกมส์รับและจังหวะที่ 2 ช่วงต้นครึ่งแรกในจังหวะที่พิชา อุทรา ได้บอลบริเวณกรอบเขตโทษ ก่อนจะกระชากบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายและโดนปราการหลังเจ้าบ้านคนเดิมเหนี่ยวล้มก่อนเข้าเขตโทษแต่ผู้ตัดสินกลับไม่ได้ให้แม้กระทั่งใบเหลือง โดยเรื่องนี้ผู้จัดการหนุ่มได้เปิดเผยว่า “เรื่องผลการแข่งขันและรูปเกมส์ในสนามผมไม่ขอพูดถึง เพราะนักเตะทั้ง 2 ทีมสู้กันในเกมส์เต็มที่แล้วแต่ก็เหมือนทุกครั้งที่พัทยาพยายามเรียกร้องก็คือการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน จาก 2 จังหวะสำคัญในเกมส์ ที่สามารถเปลี่ยนโฉมรูปแบบเกมส์หากคู่ต่อสู้ที่ทำฟาว์วโดนคาดโทษตามที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะในขณะนั้นเกมส์ยังเสมอกัน 0-0 มีผลต่อการแข่งขันแน่นอน แต่เรารู้อยู่แล้วว่าการประท้วง คงไม่สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ เหนือสิ่งอื่นใดผมต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาในวงการฟุตบอลอย่างจริงจัง อย่างในกรณีนัดเจอราชบุรี ที่ผู้ตัดสินไม่แม่นกฏเกี่ยวกับการครอบครองบอลของผู้รักษาประตู ผลจากที่เราประท้วงคือการแบนผู้ตัดสิน นั่นเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายทางเท่านั้น พอทีมเราประท้วงและอ้างกฏที่ถูกต้องขึ้นเราเชื่อว่าเคสแบบนัดราชบุรีคงไม่มีทางเกิดขึ้นอีก แน่นอน’ บิ๊กกานต์กล่าวทิ้งท้าย#PUTD #PUTDCHON
Nai-post ni Pattaya United noong Lunes, Hunyo 19, 2017
เครดิต : Pattaya United
