อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติรู้สึกพอใจกับประสบการณ์ที่บรรดาแข้งดาวรุ่งฟุตซอลชายทีมชาติไทยได้รับในศึกชิงแชมป์อาเซียนหนนี้ พร้อมกับชี้ว่าหากได้เจอกับเจ้าภาพเวียดนามในนัดชิงชนะเลิศจะถือเป็นสิ่งล้ำค่าเลยทีเดียว
ในรอบที่ผ่านมา “โต๊ะเล็กช้างศึก” ชุดสายเลือดใหม่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการชนะ 3 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งทาง อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ได้พูดถึงบรรดานักเตะในทีมว่า
“ผมพอใจกับฟอร์มการเล่นของบรรดาดาวรุ่งในทีมชุดนี้ที่เก็บชัยได้ทั้ง 3 นัดรวดในรอบแรก เชื่อว่าการมาเล่นในศึกอาเซียนครั้งนี้ จะทำให้ทุกคนเก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับไปใช้พัฒนาตัวเองได้เป็นอย่างดี และจะดีขึ้นไปอีก หากเราได้เจอกับเวียดนามในรอบชิงชนะเลิศ เพราะดูจากฟอร์มแล้วเวียดนาม น่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่แข่งแกร่งที่สุดในศึกนี้ ทั้งยังเป็นเจ้าบ้านด้วย หากดาวรุ่งของเราได้เล่นในสนามที่มีแรงกดดันสูง เจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด และสามารถเอาชนะคว้าแชมป์มาครองได้ มั่นใจว่าจะทำให้เด็กของเราได้ประสบการณ์อันมีค่ากลับไป”
นอกจากนี้ “บิ๊กป๋อม” ยังเผยอีกว่า รู้สึกพอใจกับผลงานของ ปูลปิส เฮดโค้ชชาวสเปน ที่เข้ามาคุมทีมเป็นคำรบสองเมื่อ 4 เดือนก่อน เพราะในซีเกมส์ก็สามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ ส่วนในเอเชียน อินดอร์ แอนด์ มาร์เชียล อาร์ท เกมส์ แม้จะเข้าไปได้เพียงรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่มองว่าเป็นเรื่องระยะเวลามามากกว่า
“ต้องบอกก่อนว่าปูลปิส เป็นโค้ชที่มีรายละเอียดเยอะมาก คงต้องใช้เวลามากกว่านี้ในการทำให้นักเตะเข้าใจระบบที่ปูลปิสต้องการสร้าง เช่นเดียวกับในศึกชิงแชมป์อาเซียน ครั้งนี้ที่นักเตะยังเล่นไม่ได้ตามที่ ปูลปิส ต้องการแบบ 100 เปอร์เซนต์ อย่างไรก็ตามเรายังมีเวลาอีกหลายเดือนให้นักเตะ กับปูลปิส ได้ปรับจูน และทำความเข้าใจแทคติกต่างๆ ก่อนจะถึงศึกใหญ่อย่างชิงแชมป์เอเชีย ปีหน้า ที่ไต้หวัน เชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้นเราจะเห็นทีมชาติไทยที่เรียกศักยภาพการเล่นออกมาได้แบบเต็มร้อย”
“เวียดนามจัดได้ตามมาตรฐานของ สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) มีการต้อนรับ และดูแลนักกีฬาแต่ละชาติเป็นอย่างดี แม้อาจจะไม่สมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซนต์ เท่ากับมาตรฐานของ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) แต่โดยภาพรวมแล้วน่าพอใจ และหากเปรียบเทียบกับมหกรรมกีฬาขนาดใหญ่อย่างซีเกมส์ ที่มาเลเซีย เมื่อ เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเวียดนามทำได้ดีกว่า”
