“ลูคัส” ซัดประตูชัยช่วงท้ายเกมช่วยให้มาดริดเอาชนะดอร์ทมุนด์ไป 3-2

เกมนี้เป็นการทำสถิติของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ด้วยการเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกที่ยิงได้ทั้ง 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม และส่งโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ไปเล่นในศึกยูโรป้า ลีก

ผลบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก วันพุธที่ 6 ธันวาคม 2560 เรอัล มาดริด 3-2 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
ผู้ทำประตู : 1-0 มายอราล 8′ , 2-0 โรนัลโด้ 12′ , 2-1 โอบาเมย็อง 43′ , 2-2 โอบาเมย็อง 49′ , 3-2 ลูคัส 81′
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาบิว , กรรมการ : พาเวล คราโลเวค

เริ่มเกมมาได้ 3 นาทีเป็นทางเจ้าบ้านเรอัลมาดริดที่ได้ทักทายก่อนจากจังหวะบุกจากซ้ายไปขวาของหน้าจอก่อนจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลากบอลตัดจากฝั่งซ้ายมาที่หัวกระโหลกแล้วยิงด้วยขวาบอลเด้งพื้น โรมัน เบอร์กี้ รับหลุดบอลลอยขึ้นมาแต่ยังลุกไปคว้าได้ก่อนโดนซ้ำ

อย่างเร็ว! เกมผ่านไปแค่ 8 นาทีเป็นทางเจ้าบ้านเรอัลมาดริดได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 จังหวะออกบอลไปทางซ้ายที่โรนัลโด้เลี้ยงตัดเข้าในถึงใกล้กรอบแล้วจ่ายยัดมาตรงจุดโทษให้อิสโก้พลิกบอลลั่นกลายเป็นดีมาเข้าทางปืน บอร์ฆา มายอราล ชิพข้ามตัวเบอร์กี้เข้าประตูไปอย่างสวยงาม

ต่อมาแค่ 4 นาทีเจ้าบ้านได้ประตูที่หนีออกไปเป็น 2-0 ได้อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 12 จากจังหวะ นาโช่ เฟร์นานเดซ แบ็คขวาเติมเกมกระชากบอลถึงสุดเส้นก่อนเปิดแรงล้นไปทางซ้าย มาเตโอ โควาชิช เก็บได้ไหลมาหน้ากรอบให้ โรนัลโด้ แต่งเข้าขวาแล้วสับไกบอลฮุคมาเสียบเสาสองอย่างสวยงาม

เข้าสู่ช่วงท้ายเกมครึ่งแรกเป็นทางทีมเยือนดอร์ทมุนด์ได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 2-1 ในนาทีที่ 43 จากจังหวะ มาร์เซล ชเมลเซอร์ เติมขึ้นมาฉกบอลไปเปิดเร็วจากทางซ้ายโค้งไปกลางกรอบปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง หนีการประกบของ เซร์คิโอ รามอส มาพุ่งโหม่งกดลงพื้นเสียบเสาไกลไม่เหลือ และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้แค่ 4 นาทีเป็นทางทีมเยือนดอร์ทมุนด์ได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็วไล่มาเป็น 2-2 ในนาทีที่ 49 จากจังหวะ นูริ ซาฮิน จ่ายยัดไปหน้าหัวกระโหลกให้ คางาวะ ตอกส้นทะลุเข้ากรอบไปที่ โอบาเมย็อง หลุดเดี่ยวคราวนี้ใจเย็นล็อกหลบ รามอส เข้าขวาแล้วกดเรียดติดขา นาบาส แต่บอลยังมาเข้าทาง โอบาเมย็อง อีกครั้งชิพสวนย้อยเข้าไปอย่างเหนือชั้น

เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายเจ้าบ้านมาดริดเกือบจะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะที่เปิดเกมรุกก่อนถ่ายมาทางซ้ายให้ อเซนซิโอ บรรจงโยนโค้งไปหน้าประตู โรนัลโด้ กระโดดมาแต่ถูก เนเวน ซูโบติช เบียดไว้จนแปไม่ถนัดข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายเป็นทางเจ้าบ้านเรอัลมาดริดส่งบอลซุกก้นตาข่าย แต่ไม่ได้ประตูในจังหวะที่โยนจากด้านข้างเข้าไปแล้ว คาเซมิโร่ โหม่งชงมาให้ โรนัลโด้ หมุนตัววอลเลย์เผาขนตุงตาข่ายอย่างสวยงาม แต่ไลน์แมนสะบัดธงล้ำหน้าพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย

แต่ถัดมาแต่นาทีเดียวเจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจนได้เป็น 3-2 ในนาทีที่ 81 จากจังหวบอมบ์จากด้านซ้ายไปหน้าประตูบูร์กี้ออกมาชกบอลลอยไม่ไปไหนเพื่อนต้องโหม่งสกัดแต่ดันมาเข้าทางเตโอ เอร์นานเดซโหม่งชงไปตรงหัวกระโหลกให้ ลูคัส บาซเกซ วอลเลย์ด้วยขวาโดนเฉือนๆบอลติดไซด์ก้อยหนีมือ บูร์กี้ เสียบเสาไกลเข้าไปอย่างไม่น่าเชื่อ

เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+4 ทีมเยือนเกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะทำชิ่งกันทางซ้ายบอลมาที่คางาวะล็อกหลบคาเซมิโร่หลังหักเปิดพื้นที่ตัวเองโล่งโจ้งตรงหัวกระโหลกแล้วกดด้วยขวาข้ามคานไปอย่างน่าเสียดายมากๆ และจบเกมไปเป็นทางเจ้าบ้านเอาชนะไปได้ 3-2

รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงในเกมนี้
เรอัล มาดริด ::
เคย์เลอร์ นาบาส(GK), นาโช่ เฟร์นานเดซ, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส[C], เตโอ เอร์นานเดซ, มาเตโอ โควาชิช, คาเซมิโร่, อิสโก้, ลูคัส บาซเกซ, บอร์ฆา มายอราล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ::
โรมัน เบอร์กี้(GK), โซคราติส ปาปาสทาโธปูลอส, เนเวน ซูโบติช, มาร์เซล ชเมลเซอร์[C], มาร์ก บาร์ตร้า, มาห์มู้ด ดาฮู้ด, นูริ ซาฮิน, ราฟาเอล เกร์เรโร่, คริสเตียน พูลิซิช, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, ชินจิ คางาวะ