หลังคืนฟอร์ม “โค้ชโย่ง” เผยเหมือนช้างศึกU23พ้นโทษประหารชีวิต

วรวุธ ศรีมะฆะ เฮดโค้ชทีมชาติไทย ยู23 กล่าวเปรียบเปรยหลังเอาชนะ มาเลเซีย ไป 3-0 และคว้า 3 คะแนนได้สำเร็จ ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2018 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก นัดที่ 2 ของกลุ่มเอช ว่า เหมือนพ้นข้อกล่าวหาจากเกมนัดแรก ที่ทำได้แค่เสมอ มองโกเลีย 1-1

โดยทีมชาติไทย สามารถคืนฟอร์มเก่ง ไล่ถล่มเอาชนะ มาเลเซีย ไปได้ 3-0 เก็บ 3 คะแนนเต็ม พร้อมขยับขึ้นไปรั้งจ่าฝูง กลุ่มเอช มี 4 คะแนน จากการลงสนาม 2 นัด ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2018 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก

ภายหลังจบเกม “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ เฮดโค้ชทีมชาติไทย ยู23 กล่าวว่า “อย่างที่เคยบอกหลังเกมที่เสมอกับ มองโกเลีย ว่า ขอให้เราเจอสภาพสนามที่สามารถทำให้เราเล่นได้ตามเกม ตามที่ซ้อมกันมา ก็จะพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราทำกันมานั้นถูกต้องหรือไม่ จึงไม่อยากให้ตัดสินเราจากนัดกับ มองโกเลีย ที่เหมือนเราถูกตัดสินประหารชีวิต แต่พอมานัดนี้ก็เหมือนว่าเราพ้นข้อกล่าวหา ขอขอบคุณทั้งสื่อมวลชนและคนไทยที่ยังมีที่ว่างให้เรายืนหลังจากแมตซ์ที่แล้ว”

“เราเชื่อมั่นมาตลอดว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้อง ขอแค่เวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสมในการพิสูจน์เท่านั้น อย่างไรก็ตามเกมนี้ยังมีจุดบกพร่องค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะจังหวะเข้าทำประตูที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่โดยรวมลูกทีมก็ทำได้ดี ส่วนการปรับผู้เล่นในหลายตำแหน่ง ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องใครเป็นตัวหลัก เพราะทั้งแมตซ์แรกกับแมตซ์นี้ เราเต็มที่เหมือนกัน ต่างกันตรงสภาพสนามเท่านั้น”

เฮดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า “อย่างที่ทราบ เจนรบ มีอาการบาดเจ็บมาตั้งแต่ก่อนเราตัดตัว 23 คนสุดท้ายแล้ว แต่เราคิดว่าเขามีประโยชน์ต่อทีมแม้จะไม่สมบูรณ์ อาจจะแค่ 1 หรือ 2 เกม แต่ที่จำเป็นต้องให้ เจนรบ ลงในเกมนี้ ก็เพราะเราตกอยู่ในสถาณการณ์ลำบาก ซึ่งจากประสบการณ์ และความฮึกเหิมของ เจนรบ ในเวลาที่สวมปลอกแขนกัปตันทีม เราก็เชื่อว่าเขาสามารถสร้างความแตกต่างในสนามได้ ซึ่งตนในฐานะเฮดโค้ชไม่สามารถทำได้”

“สำหรับเกมสุดท้ายในวันอาทิตย์กับ อินโดนีเซีย คิดว่าจะเป็นเกมที่สนุก ทุกทีมในอาเซียนไม่ห่างกันมากนัก เช่นเดียวกับเกมกับ มาเลเซีย ในวันนี้ เพียงแต่ไทยเรามีจังหวะเซตบอลที่ชัดเจน และทำได้ดีกว่า ยิ่งอินโดนีเซีย ชนะมาถึง 7 ประตู ก็เชื่อว่าจะมีความมั่นใจมากขึ้น และทำให้เราเล่นยากมากขึ้น อย่างเกมวันนี้ก็ทำให้เห็นว่า ไม่ว่าใช้ผู้เล่นชุดไหน อินโดนีเซีย ก็ถือเป็นทีมที่ดี สามารถนำข้อผิดพลาดของมองโกเลีย มาเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ดี เปลี่ยนโอกาสเป็นประตูได้เกือบทั้งหมด ต่างจากที่เราเจอกับ มองโกเลีย ที่จบสกอร์กันได้ไม่ดี”

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2018 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก กลุ่มเอช นัดสุดท้าย ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ในวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม 2560 ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 19.00 น. และจะมีการถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32