เจนรบ สำเภาดี เปิดใจการพาช้างศึกล่าแชมป์เอเชียU23 ในแดนมังกร

เจนรบ สำเภาดี กองหน้ากัปตันทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ออกมาเผยถึงการช่วยทีมลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศจีน โดยจะเปิดสนามนัดแรกเจอทีมชาติเกาหลีเหนือที่ทัพช้างศึกเคยพ่ายมาแล้วในรายการ M-150 คัพ 2017 ที่ผ่านมา

โดยแข้งวัย 23 ปี เคยลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศกาตาร์ มาแล้วเมื่อปี 2016 ก่อนจะได้รับโอกาสสำคัญกลับมาช่วยทีมทำศึกรายการนี้อีกครั้ง

“รายการนี้เป็นรายการใหญ่ระดับเอเชีย ผมว่ามันเป็นงานที่ยากอยู่แล้ว แต่ละทีมต่างมีมาตรฐานที่สูง” เจนรบ กล่าวเริ่ม

“ในรอบก่อนที่กาตาร์ ผมมาในฐานะรุ่นน้องในทีม ทีมเรามีคุณภาพที่สูงมาก ทั้งตัวรุ่นพี่ที่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในสโมสรได้อย่างรวดเร็ว และมีความสามารถและรวมทีมกันมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังได้เล่นกับทีมชาติไทยชุดใหญ่ ผมคิดว่ามันแตกต่างจากทีมชุดนี้ เพราะมีหลายคน ที่ไม่ได้โอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ”

“ผมยังจำได้ถึงประสบการณ์เมื่อสองปีก่อนที่กาตาร์ ผมได้ลงสองนัด เป็นตัวจริงหนึ่งนัด สำรองอีกหนึ่งนัด ผมก็เสียดายที่ไม่สามารถทำประตูได้ในครั้งนั้น แต่อย่างที่ทราบว่ามันคือระดับเอเชีย อย่างน้อยเราก็ได้ประสบการณ์จากครั้งนั้นพอสมควร ผมเองก็หวังที่จะนำเอาประสบการณ์ครั้งนั้นมาคอยบอกรุ่นน้อง ตามแต่ละสถานการณ์ไป”

ในปีที่ผ่านมา ดาวยิงจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไหร่ หลังยิงไปได้เพียงประตูเดียวเท่านั้นในระดับสโมสร “ผมเองก็กดดันนะครับที่ทำประตูไม่ได้มาก แต่ก็พยายามไม่ได้หยิบมาคิดมาก เพราะสุดท้ายเรารู้ตัวเองเสมอว่าทุกครั้งที่ลงสนามไปผมทำเต็มที่ และหากผมทำประตูไม่ได้ แต่สุดท้ายทีมเก็บชัยชนะได้ ก็ถือเป็นสิ่งที่น่าพอใจ”

“กับกระแสวิจารณ์ในช่วงที่ผ่านมา ผมทำเต็มที่เสมอเพื่อทีมชาติ ทุกนัด ผมยอมรับว่าเราอาจจะทำผลงานได้ไม่เข้าตา แต่สุดท้ายเรามีเป้าหมายชัดเจนคือจะพยายามประสบความสำเร็จให้ได้ ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกันครับ และผมก็ได้ขอโทษ และอยากจะขอโทษพี่ๆอีกครั้ง ผมเองก็ต้องกลับมาคิดว่าต้องปรับปรุงเรื่องนี้อย่างไร แต่ผมอยากให้รู้ว่าไม่ว่าผมจะทำได้ดีหรือไม่ดี แต่เมื่อลงสนามผมก็ทำเต็มที่เสมอ เพราะอยากให้เรามีความสุขด้วยกันทั้งนักฟุตบอลรวมถึงแฟนบอล”

“การแข่งขันครั้งนี้ ผมไม่ได้กดดันอะไร เพราะถ้ามองภาพรวมนี่คือประสบการณ์ที่ดีมากสำหรับพวกเราทุกคน ถ้าเราเข้ารอบต่อไปได้ มันถือเป็นการพิสูจน์ว่าเราสามารถต่อกรกับทีมระดับเอเชียได้ ครั้งก่อนทีมเก็บได้สองแต้ม ผมเองก็หวังที่จะทำให้ดีกว่าเดิม ตอนนั้นเรามีสองแต้มก็จริง และต้องไปตัดสินการเข้ารอบที่ประตูได้เสีย ทุกคนก็รู้เลยว่านี่แหละคือระดับเอเชีย แต่ละทีมต่างมีมาตรฐานสูง แต่ละแต้มที่ได้มาต่างมีคุณค่ามาก”

“ผมอยู่กับทีมชุดนี้มานาน ผมเองก็หวังว่าจะออกสตาร์ทด้วยการเก็บชัยชนะให้ได้ สุดท้ายผมอยากกล่าวขอโทษพี่ๆแฟนบอลทุกคน ที่เราทำผลงานในช่วงก่อนหน้านี้ได้ไม่ตามเป้า แต่เราทำเต็มที่เสมอ และพยายามเอาข้อผิดพลาดมาพัฒนาเสมอ ผมอยากขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจกับพวกเรา คนที่เชียร์เรา เราก็จะรับมันไว้ และนำเป็นพลัง เช่นเดียวกับคนที่ติเรา เราก็จะนำเอาคำนั้นมาเป็นตัวพิสูจน์และพัฒนาตัวเองต่อไป เพราะทุกคำพูด ทุกกำลังใจต่างเป็นแรงฮึดสำคัญที่ทำให้พวกเรารู้ว่าต้องสู้เพื่อใคร และลงสนามไปเพื่ออะไร”

ฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะลงซ้อมอีกครั้งที่สนามแข่งขัน เจียงหยิน สปอร์ต เซนเตอร์ ในวันที่ 9 มกราคม 2561 เวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะประเดิมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี โดยมีโปรแกรมดังนี้