เช็กฟิต “เจนรบ” “โค้ชโย่ง”เตรียมปรับเกมรุก เจาะเกมรับ “อิเหนา”

เช็กฟิต

เช็กฟิต

เช็กฟิต “เจนรบ” “โค้ชโย่ง”เตรียมปรับเกมรุก เจาะเกมรับ “อิเหนา”

ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ที่กำลังอยู่ในช่วงการแข่งขันของศึกชิงแชมป์เอเชีย 2018 สถานการณ์ล่าสุดทีมชาติไทย นำเป็นจ่าฝูง ของกลุ่ม เอช มี 4 คะแนนจากการเสมอ มองโกเลีย 1-1

และ ชนะ มาเลเซีย 3-0 โดยเกมนัดสุดท้ายจะพบ อินโดนีเซีย (อาทิตย์ 23 ก.ค.60) หากทีมไทย สามารถเอาชนะได้ จะคว้าอันดับ 1 ของกลุ่ม ผ่านเข้าไปแข่งขันรอบสุดท้ายที่ประเทศจีน ในช่วงต้นปีหน้าทันที

เมื่อช่วงเย็น วันเสาร์ที่ 22 ก.ค.60 แข้งนักเตะทีมชาติไทย ยู23 ได้ลงฝึกซ้อม ที่ สนามฟุตบอล ภายใน โรงแรม เลอ เมอริเดียน ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ของทีม

“โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ของทีมได้เผยว่า ”สภาพความพร้อมของทีมตอนนี้เราต้องรอเช็กความฟิตของ เจนรบ สำเภาดี ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยจากเกมพบ มาเลเซีย ส่วน ภานุเดช ใหม่วงศ์ ที่มีเป็นตะคริว ก็ต้องรอดูจนถึงวินาทีสุดท้าย โดยการจัดทีมเราอาจจะต้องมีการปรับเกมรุกในบ้างตำแหน่ง เพราะต้องการทีมที่พร้อมที่สุดสำหรับการลงสนาม นอกจากนี้เราต้องเล่นให้ดีกว่าเกมที่พบ มาเลเซีย ด้วย”

“โดยการเจอ อินโดนีเซีย เราจะประมาทพวกเขาไม่ได้ เพราะพวกเขามีความรวดเร็วและอันตรายในเกมรุก นอกจากนี้ยังมีกองหน้าที่รูปร่างค่อนข้างใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังมีจุดอ่อนตรงแผงมิดฟิลด์ และเกมรับ ที่ยังเล่นได้ไม่ค่อยดีนัก โดยเราหวังจะโจมตีในจุดบกพร่องเหล่านี้ ซึ่งหากนักเตะทุกคนทำได้ตามแท๊กติกที่วางไว้ตนมั่นใจว่าเราจะสามารถผ่านอินโดนีเซียได้แน่นอน”

โดย 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามประกอบด้วย นนท์ ม่วงงาม, นนท์ ม่วงงาม (GK), รัตนากร ใหม่คามิ, ชินภัทร์ ลีเอาะ, ศฤงคาร พรหมสุภะ, สุริยา สิงห์มุ้ย, เชาว์วัฒน์ วีระชาติ, นพพล พลคำ, พิชา อุทรา, ชัยวัฒน์ บุราญ, ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา, เจนรบ สำเภาดี ซึ่งทีมชาติไทยจะใส่ชุดดำลงทำการแข่งขันนัดนี้

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2018 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือกกลุ่ม เอช ระหว่าง ไทย พบ อินโดนีเซีย แข่งขันที่ สนามศุภชลาศัย เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดช่องไทยรัฐทีวีช่อง 32 ส่วนคู่แรก เวลา 16.00 น. มาเลเซีย พบ มองโกเลีย ถ่ายทอดสดทางยูทูปชาแนลไทยรัฐทีวี

โดยการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2018 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก จะนำทีมแชมป์ของแต่ละกลุ่มจำนวน 10 ทีม และอันดับ 2 ที่ดีที่สุดอีก 5 ทีม ผ่านเข้าไปแข่งขันรอบสุดท้ายที่ประเทศจีน ในช่วงต้นปีหน้า ระหว่างวันที่ 9-17 มกราคม 2561 ต่อไป

เครดิต : ฟุตบอลทีมชาติไทย