“โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ เฮดโค้ชทีมชาติไทยชุดยู-23 หวั่นสภาพสนามทำให้ทีมเล่นได้ไม่เต็มความสามารถ ฝ่ายจัดยัดใช้สนามเดิมเตะก่อน
ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ที่กำลังอยู่ในช่วงการแข่งขันของศึกชิงแชมป์เอเชีย 2018 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก กลุ่ม เอ โดยภายหลังจากทำได้เพียงแค่เสมอ มองโกเลีย 1-1 ในเกมนัดเปิดสนาม เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็น วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม 60 ทีมได้ลงทำการฝึกซ้อมที่ สนามฟุตบอล ภายในโรงแรม เลอ เมอริเดียน ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ของทีม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งจึงเสร็จสิ้น
ภายหลังการฝึกซ้อม “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ของทีมได้เผยถึงความพร้อมของทีมว่า “สภาพทีมตอนนี้ถือว่าเรามีความพร้อมเต็มที่ นักเตะที่มีอาการเจ็บก่อนหน้านี้ ก็พร้อมจะกลับมมาเป็นตัวเลือกของทีมอีกครั้ง โดยเกมพบกับ มาเลเซีย เราคงจะเปลี่ยนทีมไม่มาก เพราะเราต้องการเน้นผลการแข่งขัน เพื่อความชัยชนะให้ได้ ซึ่งจากการได้ดูฟอร์มของมาเลเซียจากเกมนัดแรก ถือว่าพวกเขามีความอันตรายในจังหวะโต้กลับ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีจุดอ่อนในเกมรับให้เห็นอยู่ ซึ่งเราเตรียมจะใช้จุดนี้เล่นงานทีมคู่แข่งเพื่อคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการให้ได้”
“ส่วนเรื่องที่ตนยังกังวลยังเป็นเรื่องของสนามของแข่ง เพราะเราได้เห็นกันจากเกมแรกแล้วว่า พอฝนตกลงมาอย่างหนักสภาพสนามค่อนข้างจะเละ และทำให้เราเล่นในแท็กติกที่เตรียมมาไม่ได้ หนำซ้ำเกมพบกับ มาเลเซีย เราก็ต้องลงเล่นเป็นคู่ที่สองด้วย ก็ค่อนข้างจะหวั่นใจกับเรื่องนี้พอสมควร”
ในส่วนของเรื่องสนามแข่งขัน หลังสนามศุภชลาศัย ฝนตกลงมาอย่างหนัก และทำให้สภาพสนามเละ ซึ่ง “มาดามเดียร์” วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้จัดการทีม พยายามประสานงานกับฝ่ายจัดการแข่งขัน ขอย้ายสนามแข่งขันนั้น
นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ และโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผู้ควบคุมการแข่งขัน, ฝ่ายจัด และเจ้าหน้าที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ได้ทำการตรวจสอบสนามแล้ว แม้ว่าจะไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ยังใช้การได้ และจะไม่มีการย้ายสนาม เนื่องจากสนามที่อยู่ในเกณฑ์สามารถจัดได้นั้น ติดภารกิจไม่สามารถใช้แข่งได้
“ถึงเวลานี้ยังยืนยันใช้สนามศุภชลาศัย ทว่าหากวันต่อไปมีฝนถล่มลงมาอีก ก็จะต้องพิจารณากันต่อไป ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เตรียมหาสนามสำรองไว้แล้ว รอการรับรอง”
