สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดประชุมเตรียมความพร้อมสำหรับฟุตบอลชายทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ต้องเตรียมทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศจีน ในเดือนมกราคม 2561
การประชุมในครั้งนี้นำโดย วิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิค, โซรัน ยานโควิช หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี, วรวุธ ศรีมะฆะ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน และ นาย กิตติ ตันติศรีสุข เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค
หลังการประชุม วิทยา เลาหกุล กล่าวว่า “การประชุมวันนี้ ทางโซรัน ยานโควิช ก็แจ้งว่าเขาต้องการเพิ่มสตาฟฟ์โค้ชในตำแหน่งโค้ชฟิตเนสซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่เขาไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งผมก็จะต้องทำเรื่องเสนอต่อนายกสมาคมฯอีกครั้ง”
“ส่วนการแข่งขันในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ผมว่ามันเป็นประโยชน์มาก เพราะจะได้วัดคุณภาพของแต่ละคน การสร้างทีมเราไม่ได้สร้างเพื่อไปแข่งอย่างเดียว เราต้องเน้นเรื่องพื้นฐานด้วย ในเรื่องของ สปีดของเกม และ ความสามารถเฉพาะตัว ผมคิดว่าตอนนี้เรามองข้ามตรงนี้ไป”
“ถ้าหากเรามุ่งเน้นแต่เรื่องผลการแข่งขันหรือเรื่องการเล่นเป็นทีมอย่างเดียว มันยังไม่พอ ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี หลายคนยังต้องปรับปรุงขึ้นมา ซึ่ผมเองก็ได้บอกเรื่องนี้กับทางชุดเยาวชนชุดอื่นๆเช่นกัน คือฟุตบอลต้องเล่นเป็นทีมแต่ต้องห้ามมองข้ามเรื่องพื้นฐาน ทั้งเทคนิคส่วนตัว, ความเร็ว หรือ เบสิคพื้นฐานทั่วไป”
“การไล่บอลทั้งทีม หรือการกดดัน มันมีส่วนต่อชัยชนะประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเราต้องเพิ่มเปอร์เซ็นต์ในส่วนอื่นๆต่อไปเพื่อให้เปอร์เซ็นต์ที่เราจะชนะมีมากขึ้น”
ด้าน โซรัน ยานโควิช หัวหน้าผู้ฝึกสอน กล่าวว่า “ตอนนี้เรามีโปรแกรมจะเรียกเก็บตัวทันที หลังจากที่การแข่งขันฟุตบอลในประเทศทุกอย่างจบลง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเก็บตัวในวันที่ 27 พฤศจิกายน ส่วนรายชื่อก็ต้องดูเรื่องอาการบาดเจ็บอีกครั้ง”
“ล่าสุดเชียงราย ยูไนเต็ดก็ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ ซึ่งก็มีตัวหลักในทีมชาติหลายคนในทีมนี้ นักเตะของเชียงรายก็อาจจะเดินทางมาสมทบทีหลัง เพราะพวกเขาจะมีเวลาพักน้อยกว่าคนอื่นๆ”
“นักเตะในรุ่นนี้หลายคนฟอร์มยังไม่สม่ำเสมอ แต่สิ่งสำคัญคือการได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมันจะสามารถพัฒนาได้ บางทีการที่บางคนโชว์ฟอร์มไม่ดี อาจจะเพราะไม่ได้ลงสม่ำเสมอ ซึ่งในช่วงการเก็บตัวเราก็จะมาดูกันอีกครั้ง”
“ส่วนการแข่งขันในเดือนธันวาคมนี้ก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะเราได้รู้คู่แข่งก่อน ส่วนเราก็จะได้ลองทีม เพราะแท็คติกที่จะใช้ในการแข่งขันเตรียมทีมไม่ได้แปลว่าเราจะใช้ในชิงแชมป์เอเชีย สำหรับผมว่าการแข่งขันนี้เหมือนเป็นการทดลองทีมมากกว่า ซึ่งเราจะได้ทดลองหลายๆระบบ ซึ่งมั่นใจว่าพวกเขาจะไม่สามารถจับทางเราได้แน่นอน”
สำหรับฟุตบอลชายทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะทำการแข่งขันฟุตบอล M150 Cup ที่มีทีมระดับท็อปเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น, อุซเบกิสถาน, เกาหลีเหนือ, เวียดนาม และ เมียนมา ระหว่างวันที่ 9-15 ธันวาคม 2560 ณ สนามไอ-โมบาย จังหวัด บุรีรัมย์
