สู่การพัฒนา! นายกส.บอล ชี้โอกาสดีช้างศึกได้ดวลทีมระดับโลก

พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในงานแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ที่จะแข่งขันในวันที่ 22 และ 25 มีนาคม 2561 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน

ภายในประกอบไปด้วย นายวัชร วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี, คุณมันทนา ประไพเพ็ชร์ ผู้จัดการโครงการกีฬาไทยเบฟ ไทยทาเล้นท์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง,ธารา พฤกษ์ชะอุ่ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทในเครือแกรนด์สปอร์ต, มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยและสตาฟฟ์โค้ช รวมทั้งนักเตะทีมชาติไทย ประกอบด้วย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, มานูเอล ทอม เบียห์ร ร่วมงานแถลงข่าว

โดย พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ในวันที่ 22 และ 25 มีนาคม 2561 นี้ เป็นรายการแรก ของปี 2561 ที่ทัพช้างศึกชุดใหญ่จะลงแข่งขัน อีกทั้งเป็นรายการสำคัญของคนไทยและเหล่านักฟุตบอลทีมชาติไทยที่ ต้องการรักษาถ้วยพระราชทานอันทรงเกียรตินี้ให้ยังอยู่ในประเทศไทย”

“สำหรับรายการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 เป้าหมายที่สำคัญที่สุดก็คือการป้องกัน แชมป์ถ้วยฟุตบอลของพระราชา สมัยที่ 16 หลังจากทัพช้างศึกไทยทำการผลงานไว้ดีต่อเนื่องด้วยการคว้าแชมป์ 2 ปี ติดต่อกัน โดยปีนี้เป็นปีแรกท่ีทางสมาคมฯ ปรับนโยบายการคัดเลือกทีมเพื่อยกระดับการแข่งขันและสร้างมาตรฐานให้ เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและนานาชาติ โดยนับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป ฟุตบอลคิงส์คัพจะจัดการแข่งขันในช่วงที่ ตรงกับปฏิทินฟีฟ่าเดย์ทุกครั้งเพื่อเก็บคะแนนสะสมอันดับโลก และมีโอกาสได้ร่วมแข่งขันกับทีมชุดใหญ่ (A) ทุกทีม และที่สำคัญที่สุดคือทุกทีมที่เข้าร่วมแข่งขันต้องเป็นทีมที่อยู่ใน Top 100 ของ FIFA Ranking เท่านั้น”

“ฟุตบอลคิงส์คัพ 2018 “ศึก 3 ทวีป” ได้ทีมชั้นนำและนักกีฬาระดับโลกจากทั้ง 3 ทวีปมาเข้าร่วมแข่งขัน ประกอบ ด้วย ทีมชาติสโลวะเกีย อันดับ 28 ของโลกจากทวีปยุโรป, ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อันดับ 78 ของโลกจาก ทวีปเอเชีย และทีมชาติกาบอง อันดับ 95 ของโลก ทีมมาแรงจากทวีปแอฟริกา และล่าสุดได้รับการยืนยันรายชื่อ นักเตะ 23 คนจากทุกทีม มีรายชื่อนักเตะชั้นนำระดับโลกยืนยันเข้าร่วมแข่งขัน อาทิ มาเร็ค ฮัมซิก กองกลาง ทีม นาโปลี, มาร์ติน สเคอร์เทล อดีตกองหลังทีมลิเวอร์พูล นักเตะจากทีมชาติสโลวะเกีย, โอมาร์ อับดุลราห์มาน เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย, อาเหม็ด คาลิล นักเตะจากทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าทีมอาร์เซนอล, มาริโอ เลอมินา กองกลางจาก เซาแธมป์ตัน นักเตะจาก ทีมชาติกาบอง ถือว่าตอบโจทย์การยกระดับการแข่งขันได้อย่างน่าพอใจ โดยทั้ง 3 ทีมจะเดินทางถึงประเทศไทยตั้งแต่ วันที่ 19 มีนาคม เป็นต้นไป ส่วนทีมชาติไทยแม้ว่าจะอยู่อันดับที่ 129 ของโลก แต่ก็มั่นใจว่าการวางแผนเตรียมทีมแข่งขัน และการคัดเลือกช้างศึกเข้าสู้ศึกของ มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ในครั้งนี้จะไม่ทำให้คนไทยผิดหวัง”

“อยากเชิญชวนแฟนฟุตบอลทีมชาติไทยมาร่วมส่งแรงเชียร์ช้างศึกไทยป้องกันแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ให้เต็มสนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 22 และ 25 มีนาคมนี้ ติดตามรายละเอียดการซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ (http://www.thaiticketmajor.com/spo…/kings-cup46-2018-th.html)

ด้านคุณวัชร วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี กล่าวว่า “ปี 2561 นับเป็นปีที่ 4 ที่ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 รับหน้าที่ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานอันทรงเกียรติรายการนี้ และเชื่อว่าคน ไทยทั้งประเทศต่างรอคอยที่จะได้ชมและเชียร์เหล่านักเตะทีมชาติไทยป้องกันแชมป์เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ตั้งแต่จบการ แข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 ที่ผ่านมาไทยรัฐทีวีได้หารือร่วมกับสมาคมฯ เพื่อเฟ้นหาทีมเข้าร่วมแข่งขันและวางแผน งานต่างๆ เพื่อเตรียมจัดการแข่งขันให้สมบูรณ์ที่สุด”

“ตอนนี้ไทยรัฐทีวีมีความพร้อมทำหน้าที่จัดการแข่งขัน พร้อมอำนวย ความสะดวกให้ทีมนักกีฬาทุกชาติที่เข้าร่วมแข่งขันและสื่อมวลชนทุกแขนง หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ล่วงหน้า พร้อมกันนี้ในวันแข่งขันทั้ง 2 วัน จะมีการจัดพื้นที่บริเวณแฟนโซนให้ผู้สนับสนุนรายการได้มาสร้างสรรค์กิจกรรม ดีๆ ให้แฟนบอลที่มาเชียร์ช้างศึกไทยถึงสนามได้ร่วมสนุกด้วยกันก่อนเข้าชมเกมการแข่งขัน และที่สำคัญที่สุดคือไทยรัฐทีวี ช่อง 32 มีความพร้อมในการถ่ายทอดสดการแข่งขันครบทั้ง 4 แมตช์ ใส่ใจทุกราย ละเอียดของการถ่ายทอดสดเพื่อให้แฟนฟุตบอลที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมชมการแข่งขันที่ราชมังคลากีฬาสถานได้รับ ชมฟุตบอลรายการนี้เสมือนมาเชียร์ริมขอบสนาม ทางสถานีฯ ได้เตรียมรายการวิเคราะห์ก่อนเกมและหลังเกมการแข่งขัน ที่เป็น Signature ของไทยรัฐทีวี เต็มอิ่มกับเทคโนโลยีอิมเมอร์ซีฟ และเตรียมช่องทางรับชมไว้อย่างครบถ้วนทุก แพลตฟอร์ม ได้แก่ ไทยรัฐทีวี ช่อง 32, www.thairath.co.th/tv/live, แอปพลิเคชัน MY Thairath, Youtube: Thairath, Facebook: ThairathTV และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ผ่านทุกสื่อใน เครือไทยรัฐ”

สำหรับการแข่งขันรอบแรกจะมีขึ้นวันที่ 22 มีนาคม 2561 คู่แรก ทีมชาติสโลวาเกีย พบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวลา 16.30 น. คู่ที่สอง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติกาบอง เวลา 19.30 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ทั้ง 2 คู่ ส่วนรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม 2561 เวลา 19.30 น. ขณะที่คู่ชิงอันดับ 3 จะแข่งขันในเวลา 16.30 น. โดยเกมทุกนัดจะถ่ายทอดสดทางช่องไทยรัฐทีวี

ส่วนแฟนบอลชาวไทยสามารถซื้อตั๋วชมการแข่งขันได้ที่ ไทย ทิคเก็ต เมเจอร์ ทุกสาขา มีให้เลือก 2 แบบ คือ แมตซ์เดย์ บัตร 1 วัน ชมได้ 2 คู่ ราคา 100, 200, 300, 400 และ 500 บาท ส่วนบัตร แพ็คเกจ สามารถเข้าชมการแข่งขันได้ 2 วัน 4 คู่การแข่งขัน ราคา 170, 340, 510, 680 และ 850 บาท และติดการแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ในวันที่ 8 มีนาคมนี้