วอริกซ์ เปิดตัวชุดแข่งช้างศึก 2018 ใต้คอนเซ็ปต์ “ภารกิจแห่งเกียรติยศ”

บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด ผู้รับสิทธิ์ออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายชุดแข่งขันและเครื่องแต่งกายทัพช้างศึกไทยอย่างเป็นทางการ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยประจำปี 2018 ภายใต้คอนเซปต์ “ภารกิจแห่งเกียรติยศ” (MISSION OF HONOR) ณ ห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ ชั้น M เมื่อวันที่ 13 มีนาคม เวลา 13.00 น.

ภายในงานประกอบไปด้วย พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย, วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด, อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติ พร้อมด้วยนักกีฬา, แฟนบอล และสื่อมวลชน ที่เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

ด้าน วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้รับสิทธิ์ออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายชุดแข่งขัน นี่คือภารกิจเกียรติยศ (MISSION OF HONOR) โดยชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยปี 2018 นี้ มีชื่อว่า “CHANGSUEK THE GENESIS’ (ช้างศึก เดอะ เจเนซิส) ซึ่งสื่อความหมายถึงปฐมบทของฟุตบอลไทยในยุคใหม่ การต่อสู้ครั้งใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น และจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการภายใต้การบริหารงานของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ชุดใหม่ มีการกำหนดยุทธศาสตร์ เพื่อการพัฒนากีฬาฟุตบอลของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน การกำเนิดตราสัญลักษณ์ช้างศึก แบบใหม่ ที่มีความดุดัน และเป็นสากลมากขึ้น ผสานกับโฉมใหม่ของวอริกซ์ สปอร์ตแบรนด์สัญชาติไทย ที่โดดเด่นด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยี เทียบเท่าแบรนด์ระดับโลก ในราคาที่คนไทยจับต้องได้”

“วอริกซ์ยังคงตระหนักและให้ความสำคัญกับแฟนบอลทุกกลุ่มทั่วประเทศอย่างเท่าเทียมกัน เพราะแฟนบอลทุกคนคือกำลังใจที่สำคัญของนักเตะ และทุกคนทุกกลุ่มทั่วประเทศควรมีโอกาสเข้าถึงเสื้อแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยลิขสิทธิ์แท้ได้โดยทั่วกัน วอริกซ์จึงได้ผลิต เสื้อเชียร์ทีมชาติไทย (Warrix Cheer Jersey) ออกวางจำหน่ายในราคาที่จับต้องได้ คือ 390 บาท ซึ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายไปแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีให้เลือก 2 สี คือ สีน้ำเงิน และสีแดง และมีลวดลาย 2 แบบ คือ แบบลวดลายชีพจรนักรบ (Warrior’s Pulse) อยู่ตรงแขนเสื้อ และ แบบลวดลายชีพจรนักรบ (Warrior’s Pulse) อยู่ที่ลำตัว มาพร้อมกับนวัตกรรม COMBALITE คุณสมบัติยอดเยี่ยมของเนื้อผ้าโพลีเอสเทอร์แบบ 100% ทำให้สวมใส่สบาย และช่วยในการระบายอากาศได้ดี”

สำหรับชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยถูกผลิตออกมาจำนวนทั้งสิ้น 5 สี ได้แก่ ชุดเหย้า สีน้ำเงิน, ชุดเยือน สีแดง, ชุดที่สาม สีขาว, ชุดผู้รักษาประตู สีเขียว และชุดผู้รักษาประตูทีมเยือน สีเทา มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยมาตรฐานเดียวกับสโมสรชั้นนำของโลก โดยชุดแข่งสำหรับนักเตะไม่ได้มีจำหน่ายทั่วไป เนื่องจากมีการผลิตเพื่อนักกีฬาโดยเฉพาะ ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก ผสานกับเทคโนโลยี COMBATEC  ที่วอริกซ์คิดค้นขึ้น ซึ่งคุณสมบัติทั้ง 7 อย่างรวมอยู่ในชุดแข่งขัน ผ้าบางเบาเย็นสบาย แห้งเร็ว และระบายความร้อนได้เร็วกว่าเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ปติถึง 3 เท่า ดูดซับความชื้น และลดอุณภูมิร่างกายได้ดี และที่สำคัญได้อัญเชิญตรามหาพิชัยมงกุฎ ซึ่งเป็นตราพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 มาอยู่บนชุดแข่งขันของนักเตะอีกด้วย

ในส่วนของชุดแฟนบอล ได้ออกแบบให้มีรูปลักษณ์สวยงามเหมือนกับชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ แต่โดดเด่นและมีความพิเศษมากขึ้นที่ดีไซน์ ด้วยการออกแบบเป็น REVERSIBLE ที่สามารถใส่ได้ทั้ง 2 ด้าน 2 ลาย ผลิตจากผ้า MICRO ด้วยนวัตกรรม COMBACOOL เทคโนโลยีผ้าที่ออกแบบเป็นพิเศษให้ความรู้สึกเย็นสบายทุกการสวมใส่ พร้อมด้วยคุณสมบัติซึมซับเหงื่อได้ดี ทำให้เสื้อแห้งไว ระบายอกาศได้ดีเยี่ยม และบ้องกันรังสี UV จำหน่ายในราคา 990 บาท

สำหรับชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย 2018 จะเริ่มใช้ครั้งแรกในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ในวันที่ 22 และ 25 มีนาคมนี้ โดยสามารถจับจองเป็นเจ้าของเสื้อช้างศึก เดอะ เจเนซิส (CHANGSUEK THE GENESIS) ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายต่างๆ ได้แก่ บูทวอริกซ์หน้า Q-Stadium ชั้น M ฝั่ง The Glass Quartier ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์, ช้อปวอริกซ์ สาทร ซอย 10, ช้อปช้างศึกเมกะสโตร์ เดอะมอลล์โคราช, เซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา, ซูเปอร์สปอร์ต, สปอร์ตมอลล์, FBT, Ari, Big C, FM99, ร้านแม็คยีนส์, มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, Lazada, Shopee, Thai Ticket Major และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ข่าวฟุตบอลวันนี้ 13 March 2561