นายกส.บอล เรียกกุนซือทีมไทยลีกประชุมแลกเปลี่ยนแผนงาน

วันที่ 22 มีนาคม 2561 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม Come Together ชั้น 1 ที่ทำการสมาคมฯ พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เป็นประธานในการจัดประชุมผู้ฝึกสอนของสโมสรจาก โตโยต้า ไทยลีก ขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันเกี่ยวกับการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยโดยรวม

สำหรับการประชุมดังกล่าวมี วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิค, พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ, กรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด, มร. เบนจามิน ตัน รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด, ไพฤทธิ์ ต้านไพรี หัวหน้าฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด, สาวิน จรัสเพชรานันท์ ผู้จัดการฝ่ายเทคนิคสมาคมฯ, เอกพล พลนาวี ผู้จัดการฝ่ายจัดการแข่งขันและกิจกรรมสมาคมฯ และผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย รวมถึงสโมสรจาก โตโยต้า ไทยลีก เข้าร่วม

ซึ่งในการประชุม ได้มีการหารือเกี่ยวกับการพัฒนาเยาวชนตามแนวทาง Thailand’s Way, การพัฒนาผู้ฝึกสอนให้ได้หลักเกณฑ์ตามมาตรฐานของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี), การพัฒนาผู้ตัดสินที่เทียบเท่าระดับสากล เนื่องจากผู้ฝึกสอนถือเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่จะยกระดับและขับเคลื่อนฟุตบอลไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เช่นเดียวกับการแลกเปลี่ยนความเห็นในเรื่องของตารางการแข่งขันระหว่างสโมสรกับทีมชาติ

พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า “ต้องขอบคุณโค้ชและตัวแทนสโมสรที่มาร่วมพูดคุยกันวันนี้ ที่เรามีการประชุมในวันนี้ก็เพราะว่าเราอยากให้สโมสรและสมาคมฯทำงานร่วมกัน เราอยากให้ทุกอย่างมีการประสานงาน ช่วยเหลือกัน เพราะสมาคมฯตระหนักดีว่าทีมชาติจะเก่งไม่เก่งเกิดขึ้นจากสโมสร”

“โค้ชทีมชาติทุกคนก็มีฝีมือเช่นกันแต่ก็ต้องโชคดีด้วย เพราะถ้าเปรียบเทียบโค้ชกับพ่อครัวแล้ว พวกเขาต้องสามารถเลือกหาวัตถุดิบที่ดีมาทำอาหารได้”

“นักเตะส่วนใหญ่อยู่กับสโมสร ดังนั้นการมาอยู่กับทีมชาติแค่ 7 วัน ก็เป็นเรื่องยากที่จะสร้างผลงานให้ดี หากไม่มีพื้นฐานที่ดีจากสโมสร”

ส่วน วิทยา เลาหกุล กล่าวว่า “การประชุมครั้งนี้อยากให้โค้ชของทุกสโมสรแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน รวมถึงแผนงานต่างๆของเราให้ได้ทราบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพัฒนาหรือคุณภาพของฟุตบอลในแต่ละระดับ ไม่ใช่แค่ โตโยต้า ไทยลีก อย่างเดียว แต่ยังรวมถึงลีกรากหญ้าด้วย เช่นเดียวกับกฎเกณฑ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ในเรื่องของโปรไลเซนส์ซึ่งใน 2 ปีนี้ ผู้ฝึกสอนทุกๆทีมจะต้องมีในการควบคุมทีม ซึ่งเราต้องให้ความรู้กับพวกเขาว่า โปรไลเซนส์สำคัญอย่างไรในอนาคต”

“เช่นเดียวกับโปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติและสโมสร เพื่อให้เกิดความร่วมมือและพัฒนาระหว่างกัน ซึ่งการแลกเปลี่ยนความรู้ตรงนี้ก็จะเป็นประโยชน์แก่ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งสมาคมฯและสโมสร”

ขณะที่ มาโน่ โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอน แบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวว่า “ผมคิดว่าการที่เรามีประชุมแบบนี้มันดีมากๆ เพราะทำให้ สมาคมฯ ไทยลีก และสโมสรได้มีโอกาสพูดคุยกันถึงการแข่งขัน และโปรแกรมการแข่งขัน ทำให้เราได้รู้ถึงแผนงานของสมาคมฯ ทั้งในเรื่องของทีมชาติและลีก อีกทั้งโค้ชแต่ละคนก็จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผมมองว่ามันเป็นเรื่องดีที่สโมสรได้มีโอกาสมาประชุมแบบนี้ แสดงให้เห็นว่า ต่างฝ่ายต่างสนับสนุนกันและกัน”

“สิ่งสำคัญคือเราได้รู้เรื่องแผนการแข่งขัน ทำให้เราเตรียมตัวได้ถูกต้อง เวลามีการเปลี่ยนแปลงหรือมีการเบรคให้ทีมชาติ เราก็ได้ทราบถึงเหตุผลต่างๆ แน่นอนเราก็เข้าใจ ผมถึงมองว่า การที่เรามีประชุมแบบนี้ มันมีประโยชน์ต่อทุกฝ่าย”

“ซึ่งการที่ทีมชาติไทยมีแผนไปเก็บตัว ณ ทวีปยุโรป ถือเป็นเรื่องดีเนื่องจากเป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้ง่ายๆ เนื่องจากมาตรฐานของยุโรปถือเป็นอีกระดับที่ไม่เหมือนกับสิ่งที่พวกเขาเคยเจอ ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมต่างๆ ทั้งในและนอกสนาม ถือเป็นประโยชน์ต่อนักเตะ”

“เพราะการเก็บตัวในยุโรป จะทำให้ทีมมีสมาธิจดจ่อกับเรื่องในสนามมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการละลายพฤติกรรมภายในทีม และเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากเดิม”

ข่าวฟุตบอลวันนี้ 22 March 2561