นายกส.บอล อวยพรเชิ้ตดำก่อนลัดฟ้าอบรบที่ประเทศตุรกี

พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เข้าให้โอวาท แก่ 36 ผู้ตัดสินที่จะเดินทางไปที่ประเทศตุรกี เพื่อเข้าอบรมในโครงการ AFC President’s Initiatives: Expert Pool

โดยโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือ ระหว่าง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กับ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ภายใต้โครงการ AFC President’s Initiatives: Expert Pool โดยทั้งหมดจะเดินทางไปที่เมือง อัลตัลยา ประเทศตุรกี ระหว่างวันที่ 25 มกราคม ถึง 5 กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งมีผู้ตัดสิน และผู้ช่วยผู้ตัดสินชาวไทยร่วมเดินทางจำนวนมากถึง 36 ราย

โดย พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “ก่อนอื่นขอแสดงความยินดี ถือว่าพวกเราเป็นผู้ตัดสิน และ ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่อยู่ในระดับแนวหน้า เป็นคนที่มีคุณสมบัติพร้อม”

“การอบรมครั้งนี้จะได้รับประกาศนียบัตร และแตกต่างจากคนอื่น เพราะบอกได้ว่าคุณคือคนที่ได้อบรมที่ประเทศตุรกีมาแล้ว และมีโอกาสไปต่อยอดได้ดีกว่าทางสมาคมฯ ได้หารือกับทางฝ่ายผู้ตัดสิน ทุกคนต่างเห็นดีด้วย เพราะการไปครั้งนี้ถือเป็นการฝึกระดับสากล”

“เมื่อเราได้รับโอกาสไปแล้ว อยากให้ทุกคนใช้โอกาสให้คุ้มค่าที่ทางสมาคมฯ ให้ไป อย่าคิดว่าไปเที่ยว เราไปเพื่อเรียนรู้และก็หาประสบการณ์ ที่จะไปพบไปเห็น สิ่งหนึ่งที่จะแตกต่างก็คือเรื่องระเบียบวินัย เราต้องไปอยู่ภายใต้การดูแลของชาวต่างชาติ เรื่องระเบียบวินัย เป็นสิ่งสำคัญ เขาจะได้เห็นว่าประเทศไทยมีมาตรฐานหรือไม่ เราไปในนามประเทศไทย เอาชื่อเสียงไปด้วย ถ้าเราทำอะไรที่ไม่เหมาะสม ก็จะเสียหายถึงประเทศชาติ และ ต่อไปถ้ามันไม่เกิดประโยชน์ วันข้างหน้า คนที่เดินตามหลังก็จะเหนื่อย หากผมเห็นว่าไม่มีประโยชน์ คนอื่นก็จะไม่มีโอกาส เพราะการไปครั้งนี้คือประสบการณ์ที่ดี เมื่อกลับมา ก็ต้องนำมาเล่า บอก สอน เพื่อนๆ น้องๆ ที่ไม่ได้โอกาสไป”

“การทำหน้าที่ต้องใช้ความสามารถ ประสบการณ์ และ ความรู้ สมาธิต่างๆ ในการทำหน้าที่ ผมเชื่อว่าพวกเรามีความกระหายที่จะได้รู้ได้เห็น ถึงโลกภายนอก ที่เขามีมาตรฐานที่สูงกว่าเรา เราต้องยอมรับว่าเขาดีกว่า แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีทางจะเทียบกับเขาได้ หากเรามีความตั้งใจ ก็เป็นกำลังใจให้พวกเรา ให้ได้ไปเรียนรู้ หาประสบการณ์ และไปทำสิ่งที่เป็นคุณประโยชน์ ต่อวงการกีฬาฟุตบอลไทย การพัฒนาฟุตบอล ไม่ใช่แค่มีนายกฯ สมาคมฯ แต่ต้องมีบุคลากรกีฬาที่พร้อมและครบครัน เราต้องพัฒนาทุกด้าน แพทย์เองก็เช่นกันก็ต้องไปอบรมเป็นประจำ ต้องยอมรับว่าบ้านเราแพทย์ทางด้านกีฬาโดยเฉพาะนั้นมีไม่มาก รวมถึงนักโภชนาการ ทางด้านวิทยาศาสตร์เองก็ไม่มี เขาต้องศึกษาว่าต้องกินอะไร และประเทศไทยยังไปไม่ถึงตรงนั้น”

“เราต้องฝึกอบรมกันบ่อยๆ และเพิ่มความรู้ประสบการณ์ แต่ทั้งหมด 36 คนที่จะต้องไป ผมไม่รู้ว่า 36 คนจะดีได้กี่คน ผมไม่ได้ดูถูก แต่เราต้องพูดความจริง อยู่ที่พวกคุณใช้โอกาสที่ได้รับมากแค่ไหน คนที่ตั้งใจ ทุ่มเท พยายามก็จะได้ในสิ่งที่คุณอยากได้ หากคิดว่าไปเที่ยวมันก็จะไม่ได้ การไปครั้งนี้ กลับมาจะเป็นเครื่องวัดว่า ใครคือของจริง ใครไม่ใช่ของจริง ไม่มีทางที่ทุกคนจะรับเท่ากัน ขนาดนิ้วมือยังไม่เท่ากัน แต่ทุกนิ้วต่างก็มีความหมาย ผมไม่ได้หวังว่าทุกคนจะเป็นเหมือนไม้บรรทัดที่เหมือนกันหมด แต่หวังว่าท่านจะใกล้เคียงกัน”

“แต่ละคนมีจุดแข็ง จุดอ่อน แตกต่างกัน เมื่อผมสนับสนุนหาเงินมาให้ทุกคนได้ไป ก็ต้องคาดหวังว่าพวกเราไปแล้ว กลับมาก็ต้องเป็นประโยชน์ เพราะนี่ถือเป็นรุ่นแรก และบอกได้เลยว่าผู้ตัดสินชุดนี้จะสร้างคุณประโยชน์ในประเทศไทย และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ตัดสินคนอื่น”

“หลายคนอาจจะคิดว่านายกสมาคมฯ ชอบจับผิดผู้ตัดสิน แต่ไม่ใช่ตัวผม ถ้าท่านไม่ผิดไม่ต้องกลัว เพราะเราก็ทำอะไรท่านไม่ได้ หลังจากที่ได้ประเมินแล้ว ประเทศไทยมีเครดิตสูงขึ้น มีหลายประเทศติดต่อผมมา เขาอยากนำสโมสรมาแข่งในลีกประเทศไทย มีนักลงทุนหลายประเทศ แสดงตัวตนอยากมาซื้อสโมสรในไทย ตอนนี้เรากำลังสร้างมูลค่า ชื่อเสียง และ เศรษฐกิจในประเทศไทย อย่างเช่น เอมิล เฮสกีย์ ที่สนใจซื้อสโมสรในไทย หรือ บางสโมสรในอาเซียน เขาอยากส่งทีมมาร่วมแข่ง เพราะเขาเชื่อว่าเขาน่าจะได้รับความยุติธรรมมากกว่าแข่งที่ประเทศอื่นๆ ตอนนี้ภาพลักษณ์เราดีขึ้น มันก็ต้องมีเจ็บ อะไรที่ทำไว้ ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องรับผิดชอบ ผมไม่กลั่นแกล้งใครแน่นอน เพราะมันทำไม่ได้ ถ้าคุณไม่ได้ทำผิดก็ไม่ต้องกลัวอะไร”

“ผมหวังว่าสิ่งที่ไม่ดีจะหมดไป แต่ถ้าพวกเราพร้อมใจกัน ทำในสิ่งที่ดี เราก็จะหยุดสิ่งเหล่านี้ อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าสมาคมฯ ทำอะไร เราไม่ต้องการทำร้ายพวกท่าน แต่หากไม่ทำอะไรเลย มันจะเลยเถิด และคนอื่นก็คิดว่ามันเสียโอกาส ถ้าวงการฟุตบอลไทยพังหรือล่มสลาย พวกเราก็ไม่มีงานทำ”

“ดีใจกับทุกคน และขออวยพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ อย่าเจ็บ อย่าป่วยและขอให้ดูแลสุขภาพ เพราะสภาพอากาศแตกต่างจากบ้านเรา ก็ขอให้ประสบผลสำเร็จได้รับสิ่งดีๆ กลับมา ทั้งการฝึกรูปแบบใหม่ กรรมการที่ 5-6 รวมถึง ระบบ VAR เพราะไม่วันนี้ วันหน้าก็ต้องมี เพราะทั่วโลกเขามี การนำระบบเข้ามาไม่ใช่เพราะไม่เชื่อใจ แต่โลกมันพัฒนาอยู่ตลอดเวลา การทดสอบต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อม ว่าวันหนึ่งต้องเปลี่ยน เราต้องตามให้ทัน เราต้องเป็นชาติแรกในอาเซียนที่เดินก่อนคนอื่น ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ เดินทางโดยปลอดภัย ถ้าผมมีโอกาสจะเดินทางไปเยี่ยม ขอบคุณมากครับ”

สำหรับผู้ตัดสินและผู้ช่วยผู้ตัดสิน จำนวน 36 ท่านที่จะเดินทางไปเมืองอัลตัลยา ประเทศตุรกี จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ในวันที่ 25 มกราคม 2561 ในเวลา 23.45 น. และเดินทางกลับถึงประเทศไทย ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 17.35 น.

ข่าวฟุตบอลวันนี้ 22 January 2561